ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2026 เป็นต้นไป ข้อสอบ TOEFL iBT จะมีการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี ETS (องค์กรผู้ออกข้อสอบ TOEFL) ได้ออกแบบข้อสอบใหม่ให้สั้นลง รองรับระบบปรับระดับ (adaptive) และสอดคล้องกับสถานการณ์จริงทั้งในด้านวิชาการและชีวิตประจำวันมากขึ้น
หากคุณมีแผนจะสอบ TOEFL ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบข้อสอบใหม่ ทั้งโครงสร้าง ระยะเวลา คะแนน และวิธีเตรียมตัวให้เหมาะสมกับรูปแบบใหม่
ด้านล่างนี้คือสรุปการเปลี่ยนแปลงสำคัญทั้งหมด:

Contents
- <การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ TOEFL รูปแบบใหม่>
- 1. พาร์ท Reading: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่
- 2. พาร์ท Listening: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่
- 3. พาร์ท Writing: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่
- 4. พาร์ท Speaking: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่
- <เหตุผลที่ควรรู้การเปลี่ยนแปลงปี 2026 และการเตรียมตัวให้ถูกต้อง>
- มีคำถามเกี่ยวกับ TOEFL รูปแบบใหม่ไหม? ถามได้ทุกเมื่อ!
<การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ TOEFL รูปแบบใหม่>
- ระบบ Adaptive Testing
ในพาร์ท Reading และ Listening จะใช้รูปแบบข้อสอบแบบ “ปรับระดับตามความสามารถ” (multistage adaptive)
ระดับความยากของคำถามในช่วงถัดไปจะขึ้นอยู่กับผลการทำข้อสอบของผู้สอบในช่วงก่อนหน้า - เวลาสอบทั้งหมด
เวลาสอบรวมถูกลดลงเหลือน้อยกว่า 2 ชั่วโมง - เนื้อหา
ปรับเนื้อหาให้หลากหลายขึ้น ทันสมัยขึ้น และสอดคล้องกับสถานการณ์ชีวิตจริง เช่น ชีวิตในมหาวิทยาลัยและชีวิตประจำวัน - ระบบให้คะแนนแบบใหม่
นอกจากคะแนนเต็ม 0–120 แบบเดิมแล้ว จะมีคะแนนแบบช่วง (band score) ตั้งแต่ 1–6 (เพิ่มทีละ 0.5 เช่น 3.0 หรือ 3.5) คล้ายกับระบบ CEFR
คะแนนรวมของข้อสอบรูปแบบใหม่คือค่าเฉลี่ยคะแนนของแต่ละพาร์ท - ลำดับพาร์ทข้อสอบ
ในรูปแบบใหม่ ข้อสอบจะมีลำดับดังนี้: Reading → Listening → Writing → Speaking
TOEFL ยังคงแสดง MyBest Score ซึ่งเป็นคะแนนดีที่สุดของแต่ละพาร์ทในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
1. พาร์ท Reading: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่

เดิมทีพาร์ท Reading มีบทอ่านยาว 2 เรื่อง เรื่องละ ~700 คำ และคำถามเรื่องละ 10 ข้อ
แต่ตั้งแต่ปี 2026 จะใช้ระบบ adaptive และมีรูปแบบคำถามใหม่ 3 แบบ ได้แก่:
- Complete the Words
เติมตัวอักษรที่หายไปในคำศัพท์ภายในบทความเชิงวิชาการ
แต่ละบทความมี 10 คำที่ไม่สมบูรณ์ - Read in Daily Life
อ่านข้อความในชีวิตประจำวัน เช่น อีเมล ประกาศ หรือโพสต์โซเชียล (15–150 คำ)
มี คำถาม 2–3 ข้อ ต่อข้อความ - Read an Academic Passage
อ่านบทความเชิงวิชาการสั้น (~200 คำ)
มี คำถาม 5 ข้อ
พาร์ทนี้จึงมีความหลากหลายขึ้น กระชับขึ้น และสะท้อนการอ่านในสถานการณ์จริงมากขึ้น
⏱ เวลาที่ใช้: ประมาณ 27 นาที (จากเดิม 36)
❓ จำนวนข้อ: 35–48 ข้อ (จากเดิม 20)
2. พาร์ท Listening: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่

พาร์ท Listening จะเปลี่ยนเป็นระบบ adaptive เช่นกัน เดิมมี 3 บรรยาย + 2 บทสนทนาแบบคงที่
รูปแบบใหม่จะมีคำถาม 4 ประเภทดังนี้:
- Listen and Choose a Response
ฟังประโยคหรือคำถามสั้น ๆ แล้วเลือกคำตอบที่เหมาะสม
ไม่มีข้อความบนหน้าจอ - Listen to a Conversation
บทสนทนาสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันหรือชีวิตในมหาวิทยาลัย
แต่ละบทสนทนามี 2 คำถาม - Listen to an Announcement
ประกาศในมหาวิทยาลัยหรือในชั้นเรียน (40–85 คำ)
แต่ละประกาศมีคำถามหลายข้อ - Listen to an Academic Talk
ฟังบรรยายสั้น (100–250 คำ)
มี 4 คำถาม
พาร์ทนี้จึงมีความใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมากขึ้นทั้งในห้องเรียนและในมหาวิทยาลัย
⏱ เวลาที่ใช้: ประมาณ 27 นาที (จากเดิม 41)
❓ จำนวนข้อ: 35–45 ข้อ
3. พาร์ท Writing: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่

จากเดิม 2 งานเขียน → รูปแบบใหม่มี 3 ประเภทคำถาม ที่เน้นงานเขียนสั้นและใช้งานจริง
เวลารวม ประมาณ 23 นาที และมี ทั้งหมด 12 ข้อ
รูปแบบคำถามใหม่ได้แก่:
- Build a Sentence
จัดเรียงคำให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง
ประโยคนี้เป็นคำตอบต่อข้อความหรือคำถามบนหน้าจอ - Write an Email
เขียนอีเมลสั้น ๆ ตอบกลับสถานการณ์เฉพาะ
มีบริบทและข้อกำหนดบอกไว้บนหน้าจอ
เวลาที่ใช้: 7 นาที - Writing for an Academic Discussion
คล้ายแบบเดิม ผู้สอบเขียนโพสต์แสดงความเห็นในกระดานสนทนาของชั้นเรียน
เวลาที่ใช้: 10 นาที
ระบบใหม่นี้เน้นทักษะเขียนที่ใช้จริงทั้งในวิชาการและชีวิตประจำวัน
⏱ เวลาที่ใช้: 23 นาที
❓ จำนวนข้อ: 12 ข้อ
4. พาร์ท Speaking: โครงสร้างใหม่และรูปแบบคำถามใหม่

จากเดิม 4 งานพูด → รูปแบบใหม่เหลือ 2 ประเภทคำถาม รวมทั้งหมด 11 ข้อ
เวลาพูดลดลงเหลือ ประมาณ 8 นาที
รูปแบบคำถามใหม่:
- Listen and Repeat (7 ข้อ)
ฟังประโยคสั้น ๆ แล้วพูดซ้ำให้เหมือนเดิม
ไม่มีข้อความบนหน้าจอ
ประโยคทั้งหมดเกี่ยวข้องกับภาพเดียวกันบนหน้าจอ
ระบบอาจแสดงลูกศร / ไฮไลต์ตามข้อมูลที่กล่าวในประโยค
ประโยคจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้สอบมีเวลาอัดเสียง 8–12 วินาที - Take an Interview (4 ข้อ)
ตอบคำถามสัมภาษณ์จำลองเกี่ยวกับหัวข้อใกล้ตัว
รูปแบบเป็นวิดีโอสัมภาษณ์
คำถามไม่มีข้อความบนหน้าจอ ต้องฟังอย่างเดียว
คำตอบอาจเป็น ข้อมูลจริง / ประสบการณ์ / ความเห็น
ไม่มีเวลาคิดล่วงหน้า มีเวลาอัดเสียง 45 วินาที
พาร์ท Speaking ใหม่เน้นการโต้ตอบแบบทันทีทันใด และทักษะการสื่อสารจริง
⏱ เวลาที่ใช้: 8 นาที
❓ จำนวนข้อ: 11 ข้อ
<เหตุผลที่ควรรู้การเปลี่ยนแปลงปี 2026 และการเตรียมตัวให้ถูกต้อง>
TOEFL รูปแบบใหม่เน้นความกระชับ มีประสิทธิภาพ และสะท้อนการใช้ภาษาอังกฤษจริงมากขึ้น
- เวลาสอบสั้นลง เหลือน้อยกว่า 2 ชั่วโมง
- Reading/Listening ใช้ระบบ adaptive
- คะแนนแบบใหม่ 1–6 คล้าย CEFR
- เพิ่มงานที่ใกล้เคียงชีวิตจริงในทุกพาร์ท
มีคำถามเกี่ยวกับ TOEFL รูปแบบใหม่ไหม? ถามได้ทุกเมื่อ!
เพราะข้อสอบมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเตรียมตัวด้วยตัวเองอาจยุ่งยากและเสียเวลาโดยไม่จำเป็น
ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Mentor Language Institute (MLI) เชี่ยวชาญด้าน TOEFL รูปแบบใหม่และอ้างอิงข้อมูลจาก ETS โดยตรง
เรามีทุกอย่างที่คุณต้องการ:
วิเคราะห์รูปแบบคำถามใหม่อย่างละเอียด
เทคนิคทำข้อสอบอย่างมีประสิทธิภาพ
ฝึกฝนตามเวลาข้อสอบแบบใหม่โดยเฉพาะ
หากมีคำถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเราได้ที่: info@mliesl.edu
Kyle Hanano เป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2548 เขามีประสบการณ์สอนนักเรียนทุกวัยและทุกระดับความสามารถ อย่างไรก็ตาม เขามีประสบการณ์สอนมากที่สุดในการเตรียมสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการสอบ TOEFL เขาเป็นส่วนหนึ่งของ Mentor Language Institute ตั้งแต่ปี 2008 ก่อนหน้านั้น เขาเป็นผู้ช่วยครูสอนภาษาในญี่ปุ่นกับโปรแกรม JET เป็นเวลาสามปี เขาจบปริญญาตรี สาขาวรรณคดีอังกฤษ และปริญญาตรี สาขาภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นจาก University of California, Los Angeles และสำเร็จการศึกษาในปี 2005
